[siteorigin_widget class=”SiteOrigin_Widget_Image_Widget”][/siteorigin_widget]

ที่ลูกบอกว่าไม่ชอบเลข…..จริงหรือ? เพราะเหตุใด? 

คณิตศาสตร์เป็นวิชาที่สำคัญมากวิชาหนึ่ง เพราะวิชานี้จะช่วยเสริมสร้างตรรกะความคิดของเด็กๆ ให้เป็นเด็กที่คิดอย่างมีเหตุผลได้ดี และ สามารถนำไปต่อยอดในการเรียนอีกหลายวิชาได้อย่างดี จะพบได้ในหลายตัวอย่างว่า เด็กที่เก่งด้านคณิตศาสตร์นั้น จะมีความสามารถเรียนได้ดีในหลายวิชาอีกด้วย ดังนั้น พ่อแม่หลายท่านจึงพยายามส่งเสริมลูกให้เรียนคณิตศาสตร์ได้ดี 

 

### หรือลูกเราไม่เก่งเลขจริงๆ…ลูกคงไม่เหมาะกับวิชานี้ ###  

@ เมื่อ คุณพ่อ คุณแม่ หลายท่าน มุ่งมั่นที่จะให้ลูกเรียนวิชาเลขให้เก่ง…โดยส่งลูกไปเรียนพิเศษตามสถาบันที่มีชื่อเสียง ซึ่งมีครูที่มีความรู้ และเทคนิคการสอนอย่างดี

@ แต่หลายท่านกลับพบว่า…แม้จะส่งลูกไปติวเลขตามสถาบันที่มีชื่อแล้ว ผลการเรียนเลขก็ยังไม่ดีขึ้นเท่าที่ควรจะเป็น เพราะอะไร? เมื่อคิดแล้ว ก็อาจจะสรุปว่า ลูกเราคงไม่มีความสามารถทางด้านนี้สักเท่าไหร่ คงต้องให้ไปเรียนอย่างอื่นดีกว่า

@ อยากบอกว่า…สิ่งนี้ยังไม่ใช่บทสรุป ศักยภาพที่ยังไม่ได้ถูกค้นพบ ไม่ใช่ว่าไม่มีจริง เพียงแต่ เส้นทางที่ได้เดินมา ในการค้นหาศักยภาพทางคณิตศาสตร์ให้ลูก มันถูกทางหรือไม่?  

@ การส่งลูกไปเรียนพิเศษไม่ใช่สิ่งที่ไม่ดี แต่เมื่อเรียนไปแล้ว…เด็กเกิดความไม่เข้าใจ แล้วไม่ได้รับการอธิบาย เนื่องจาก อาจจะไม่ได้ถามคุณครู หรือพ่อแม่ เขาก็จะติดค้างไว้ในใจเรื่อยๆ สะสมเป็นเหมือนปมคำถามค้างไว้ในใจ แล้วก็ต้องมาเรียนเรื่องใหม่เพิ่มอีก 

@ นี่คือปมสำคัญที่ขมวดความรู้ของลูกไว้ ให้ไม่สามารถแสดงศักยภาพที่ดีกว่าที่ควรจะเป็นออกมา และถ้าไม่ได้รับการคลายปม ก็จะเกิดการขมวดปมยิ่งแน่นขึ้น ลูกจะเริ่มรู้สึกเครียด และ เริ่มจะไม่สนุก 

 

### ความรู้ที่ถูกอัดแน่นให้กับเด็ก โดยที่เด็กยังไม่มีพื้นฐานคณิตศาสตร์ที่แน่น ###  

@ ปัญหาหนึ่งที่พบมาก คือ การให้ลูกได้รับความรู้ที่มากมาย ตัวอย่างเช่น หนังสือโจทย์ปัญหาเล่มโตๆ หรือการติวในวันหยุดจนถึงบ่ายหรือเย็นค่ำ  โดยที่ลูกยังไม่มีพื้นฐานความเข้าใจในวิชาคณิตศาสตร์ที่ดีเพียงพอ…จึงยังไม่สามารถทำความเข้าใจ ประยุกต์ใช้ และต่อยอดความรู้ที่เรียนมาได้

@ เมื่อเด็กเกิดสภาวะเช่นนี้แล้ว ความรู้ที่เด็กได้ไปเรียนรู้ หรือศึกษามาจากแหล่งต่างๆ เหล่านั้น กลับไม่ได้ทำให้เด็กสามารถคิดทางแก้โจทย์ปัญหาได้ดี ตอนไปเรียนก็ดูเหมือนเข้าใจ…แต่กลับมาลองทำโจทย์เอง หรือว่าไปทำโจทย์ที่เปลี่ยนบางอย่างไปบ้าง ก็แก้โจทย์ไม่ได้หรือเกิดการติดขัดทางความคิด 

@ การติดขัดทางความคิด เกิดเนื่องจาก ลูกยังไม่เข้าใจ ซึ่งอาจจะทำให้ลูกเกิดความท้อแท้ หรือไม่รู้สึกสนุกกับคณิตศาสตร์สะสมไปเรื่อยๆ หากเกิดความรู้สึกแบบนี้แล้ว ก็เหมือนกับการเอาภาระไปให้เขาแบก ลูกจะเริ่มต่อต้าน และนำไปสู่คำตอบที่ว่า “หนูหรือผมไม่ชอบคณิตศาสตร์” ถ้าลูกพูดออกมาแบบนี้ อาจจะถือว่าค่อนข้างช้าแล้ว ที่จะพัฒนาศักยภาพทางด้านคณิตศาสตร์ เพราะลูกจะมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อวิชานี้ ความสามารถในการต่อยอด หรือประยุกต์ใช้ความรู้ทางคณิตศาสตร์ก็ทำได้ แต่จะเป็นไปได้ช้า และ ต้องใช้ความพยายามอย่างมาก แต่ถ้าเราเข้าใจปัญหา เห็นว่าสิ่งที่ลูกพูดเป็นเรื่องสำคัญ และ เริ่มแก้ไขปัญหาอย่างถูกทาง ก็จะช่วยให้ลูกสามารถพัฒนาความสามารถทางคณิตศาสตร์ให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิมได้ 

 

 

### ในขณะที่เรียนรู้ เขาจะต้องสามารถแก้ปัญหาต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาได้ ###  

@ การที่เด็กคนหนึ่งจะเรียนรู้คณิตศาสตร์ได้อย่างเข้าใจ และสนุกได้นั้น ทั้งจากบทเรียนในโรงเรียน แบบฝึกหัดจากติวเตอร์ต่างๆ และ โจทย์แข่งขันจากหลากหลายสนาม…โปรดอย่าปล่อยให้ลูกติดค้างกับปัญหาที่สงสัย จงช่วยลูกในการแก้ปัญหาจนลูกเข้าใจ 

@ ถ้าหากลูกสามารถเข้าใจ และ แก้ปัญหาหรือข้อสงสัยนั้นๆ ได้ ก็จะทำให้ลูกมีความมั่นใจ และรู้สึกสนุก มีพลังขับเคลื่อน…ในการที่จะเรียนขั้นที่สูงขึ้นต่อไป หรือเรียนรู้เรื่องใหม่ๆ ที่ผ่านเข้ามาได้อย่างสนุก และมีความกระตือรือร้นที่อยากจะเรียนรู้มากขึ้น 

@ แต่ปัญหาที่ได้พบ คือ เมื่อเขาเกิดติดขัด หรือว่าไม่เข้าใจ บางครั้งเขาสามารถหาคำตอบได้ แต่บางครั้ง…เขาไม่รู้จะไปถามใคร? ทำให้รู้สึกโดดเดี่ยว ไม่มีเพื่อนร่วมแก้ปัญหา บางทีก็ไม่กล้าบอกพ่อแม่ว่าไม่รู้เรื่อง 

 

 

การนำทางให้ลูก โดยเป็นผู้คอยช่วยตอบคำถาม เมื่อลูกเกิดข้อสงสัย และ การคอยแนะนำเพื่อต่อยอดทางคณิตศาสตร์นั้น บุคคลที่มีความสำคัญที่สุด คือ คุณพ่อ และ คุณแม่ หรือ ผู้ปกครองที่ดูแลเด็ก ถ้าหากท่านสามารถทำหน้าที่นี้ได้ดี ก็ถือว่าสุดยอด เพราะเด็กเก่งหลายคนที่ได้สัมผัสมา ส่วนมากจะมีคุณพ่อคุณแม่คอยสนับสนุน ดูแลลูกเป็นอย่างดีในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านความรู้ ความสุข นิสัยที่เข้ากับผู้อื่นได้ สุขภาพอนามัย และ ความปลอดภัย ถ้าท่านทำได้อย่างนั้น เชื่อแน่ว่า ลูกจะมีการพัฒนาความสามารถในด้านต่างๆ อย่างมาก โดยจะสามารถสอบแข่งขันและได้รับรางวัลมากมายจากสนามต่างๆ หรือสอบเข้าไปเรียนที่โรงเรียนในฝันของเขาได้ มีความสุข มีอนาคตที่สดใส เป็นที่รักของคุณครูและเพื่อนๆ แต่พ่อแม่จะทำแบบนี้ได้ ต้องทุ่มเททั้งเวลา กำลังกาย กำลังใจ ความรัก ความเข้าใจ และ การคอยหาความรู้ เพื่อจะดูแลลูกรักให้เดินไปในเส้นทางที่ดีตามศักยภาพของเขาได้ 

 

[siteorigin_widget class=”SiteOrigin_Widget_Image_Widget”][/siteorigin_widget]

Happy Maths Journey = ผู้ช่วยตอบคำถาม และ ที่ปรึกษาการเรียนคณิตศาสตร์ประจำครอบครัว
 

Happy Maths Journey คือ บริการรูปแบบใหม่ ที่เป็นตัวช่วยคอยช่วยเหลือ คุณพ่อ คุณแม่ และลูก แนะนำสมาชิกสำหรับเส้นทางที่ใช่ เพื่อช่วยพัฒนาและเพิ่มศักยภาพทางคณิตศาสตร์ของลูก ในแบบฉบับเฉพาะสำหรับลูกของคุณ หรือจะเรียกได้ว่า เป็นผู้ชี้แนวทางการเรียนคณิตศาสตร์ประจำครอบครัว โดยถือว่าเป็นบริการสำหรับช่วยแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ ให้ตรงจุดแบบเฉพาะบุคคล ได้อย่างสะดวกสบาย โดยผ่านทางระบบออนไลน์ จึงประหยัดเวลาในการเดินทางได้มาก ในราคาที่คุณจ่ายได้แบบสบายๆ 

 

ทั้งนี้ คุณพ่อ คุณแม่ ควรจะร่วมรับทราบปัญหา และ คอยช่วยแก้ไขปัญหาไปพร้อมกับลูกด้วย โดยไม่จำเป็นต้องใช้เวลาไปค้นหาทุกเรื่อง แต่จะสามารถมีข้อมูล มีคำตอบให้ลูกได้ หากได้ปฏิบัติแบบนี้ไปอย่างต่อเนื่อง ลูกจะรู้สึกอบอุ่นใจ ไม่รู้สึกโดดเดี่ยวเมื่อพบกับปัญหา มีพลังใจที่จะเรียนรู้อย่างมีความสุข และ แน่นอนว่า ลูกจะรักและเกิดความเข้าใจในความรักของพ่อแม่มากขึ้น โดยคุณพ่อ คุณแม่ ไม่ต้องมาคอยบอก หรือว่าขอให้ลูกพยายามใส่ใจเรียน เพราะว่าลูกจะทำหน้าที่ของเขาจากใจ และลูกก็จะรักอนาคตของตัวเอง อยากทำให้คุณพ่อ คุณแม่ ภูมิใจในตัวของเขา ทีมงานก็เชื่อว่า ผลลัพธ์ที่ออกมา จะทำให้คุณพ่อ คุณแม่ ยิ้มได้อย่างมีความสุข ^_^  Happy Maths Journey เป็นโครงการที่มีจุดประสงค์หลักๆ ดังนี้ 

 

1.เป็นผู้ช่วยในการตอบคำถาม หรือ เป็นที่ปรึกษาส่วนตัว และ ช่วยชี้แนวคิดให้คุณพ่อ คุณแม่ เพื่อจะมีคำตอบให้ลูก เมื่อเกิดข้อสงสัยหรือเกิดคำถามขึ้น เป็นการช่วยลดภาระของคุณพ่อ คุณแม่ ในการหาความรู้ทางด้านคณิตศาสตร์ให้กับลูก โดยไม่ต้องใช้เวลามากเกินไป แต่ยังสามารถทำให้ลูกได้เรียนรู้คณิตศาสตร์อย่างมีประสิทธิภาพ 

2.เป็นผู้ช่วยในการตอบคำถาม ชี้แนวคิดให้กับน้องๆ หากน้องเกิดข้อสงสัย และ ต้องการที่จะถามข้อสงสัยต่างๆ กับทีมงานโดยตรง ทั้งนี้ ทีมงาน Happy Maths Journey ก็ยังคงจะแนะนำให้ คุณพ่อ คุณแม่ คอยติดตามดูแลลูกของคุณเองด้วย หลังจากที่มีการถามคำถามด้วยตัวเด็กเองแล้ว ว่าลูกเกิดความเข้าใจหรือไม่อย่างไร เพื่อให้ลูกรู้ว่า คุณพ่อ คุณแม่ ยังใส่ใจ และ คอยดูแลให้กำลังใจในพัฒนาการของเขาอยู่ 

3.เป็นผู้คอยส่งข้อมูลความรู้จากแหล่งต่างๆ ให้คุณพ่อ คุณแม่ ตัวอย่างเช่น แนวทาง และ รายการสำหรับการแข่งขันทางด้านคณิตศาสตร์ในแต่ละสนาม โจทย์การแข่งขันในสนามต่างๆ และ แหล่งเรียนรู้ที่ดีทางด้านคณิตศาสตร์ เป็นต้น รวมทั้งจะพัฒนาฐานความรู้ ที่เกี่ยวกับ คำถามที่เกิดขึ้นจริงจากสมาชิกทุกท่าน และ คำตอบที่ทางทีมงานแนะนำให้ เพื่อจะได้เป็นประโยชน์กับสมาชิกในโครงการนี้ ในการที่จะเพิ่มพูนความรู้ทางคณิตศาสตร์ให้หลากหลายและมากยิ่งขึ้นได้ 

 

กิจกรรมดังกล่าวมานี้ จะเป็นการช่วยคุณพ่อ คุณแม่ เตรียมความรู้ให้ลูกๆ เพื่อเข้าสู่เส้นทางการเรียนคณิตศาสตร์อย่างเข้าใจ ในรูปแบบที่ปรึกษาส่วนตัว สิ่งที่สำคัญที่สุดในการเรียนรู้ คือ การทำให้ลูกมีความสุข และ สนุกไปกับการเรียนคณิตศาสตร์  ซึ่งถือว่าเป็นแนวคิดสำคัญของโครงการ Happy Maths Journey คือ การเรียนรู้ได้อย่างมีความสุข จะสามารถเพิ่มศักยภาพในเรื่องที่เรียนได้มากขึ้น โดยไม่ใช่การบังคับ แต่เป็นการสร้างวินัยในการเรียน เพื่อความสำเร็จในอนาคต

 

Happy Maths Journey มีรูปแบบเป็นกลุ่มปิดที่มีจำนวนสมาชิกจำกัด เพื่อทีมงานจะสามารถดูแลสมาชิกได้ทั่วถึงอย่างมีคุณภาพ โดยโครงการนี้จะรับดูแลสมาชิกที่มีลูกเรียนอยู่ในช่วงชั้นประถม 4 ถึงประถม 6 เท่านั้น เพื่อเตรียมตัวในการสอบเข้าโรงเรียนคุณภาพตามที่คุณพ่อ คุณแม่ และลูกได้มุ่งหวัง ทั้งนี้ ถ้าลูกมีพื้นฐานที่แน่นทางคณิตศาสตร์แล้ว คุณพ่อ คุณแม่ อาจสามารถหวังผลไปถึงการสอบเข้าโรงเรียนชั้นนำ ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายได้ ตัวอย่างเช่น เตรียมอุดมศึกษา มหิดลวิทยานุสรณ์ และ กำเนิดวิทย์ ซึ่งถือว่าเป็นโรงเรียนที่สอบเข้ายากที่สุด แต่ถ้าลูกของคุณไม่มีพื้นฐานแน่นมาแต่ชั้นประถม ก็จะต้องพยายามอย่างมากในระดับชั้นมัธยมต้น ทำให้เกิดความเครียด และ อาจไม่สามารถพัฒนาต่อยอดความรู้ได้มากเท่าที่ต้องการได้ 

 

[siteorigin_widget class=”SiteOrigin_Widget_Image_Widget”][/siteorigin_widget]

รูปแบบกิจกรรมของ Happy Maths Journey

กิจกรรม วิธีการ ประโยชน์
1.ตอบคำถามคณิตศาสตร์ ให้กับสมาชิก  หากมีคำถามสงสัย คุณพ่อ คุณแม่ หรือ ตัวน้องเอง สามารถฝากคำถามผ่านไลน์ที่ติดต่อกัน ทีมงานจะช่วยหาแนวคิด และ จะขอดูวิธีคิดของน้อง เพื่อหาจุดอ่อน จากนั้นบอกแนวคิด เพื่อให้ลองคิดเอง ถ้าทำไม่ได้เฉลยให้ดูผ่านไลน์ อาจจะเป็น รูปภาพ คลิปคำอธิบาย หรือ เป็นการโทรเพื่ออธิบายหากจำเป็น และตรวจสอบความเข้าใจของน้อง รวมถึงอาจมีการหาคลิปที่อธิบายเรื่องนั้นๆ ให้ดูเพิ่มเติมได้  เด็กที่มักบอกว่า ไม่ชอบคณิตศาสตร์มากกว่าครึ่ง เกิดจากการเรียนแล้วไม่เข้าใจ แล้วไม่มีคนไขข้อข้องใจให้ ทำให้สะสมเหมือนดินพอกหางหมู ยากในการจัดการทีเดียว ดังนั้นไม่ว่าน้องจะติดที่ตรงไหน เราต้องช่วยแก้ให้ เขาถึงจะเดินต่อไปได้
2.ฝึกทำโจทย์การแข่งขันของข้อสอบ หลายสนาม ตามความพร้อมของสมาชิก  ทีมงานจะทำการส่งโจทย์ไปให้ คุณพ่อ คุณแม่ เพื่อให้พิมพ์ออกมา และ จับเวลาให้ลูกทำด้วยความพร้อม และ ความเต็มใจ แล้วส่งมาให้ทีมงานตรวจให้คะแนน โดยถ้าทำอย่างต่อเนื่อง ก็จะพอทราบพัฒนาการทางคณิตศาสตร์ของลูกได้  เป็นการสร้างความพร้อมให้ลูก เพื่อการสอบในสนามจริง จะได้คุ้นเคยกับระบบการสอบ และ ได้ประเมินผลตัวเองด้วยว่า มีพัฒนาการมากน้อยแค่ไหน และ ต้องปรับปรุงอะไร อย่างไร โดยคุณพ่อ คุณแม่ จะเป็นผู้คอยให้กำลังใจกับลูก ไม่ว่าผลของคะแนนจะออกมาอย่างไรก็ตาม
3.ชวนลูกให้ไปสอบแข่งขัน เมื่อเขาพร้อม ทีมงานจะแจ้งกำหนดการแข่งขันคณิตศาสตร์ และ Pre-test ตามสนามต่างๆ ให้คุณพ่อ คุณแม่ สมัครสอบให้น้อง หรือ กรณีที่คุณพ่อ คุณแม่ ไม่สะดวกในการสมัคร เราจะช่วยทำการสมัครให้น้อง เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ในการสอบสนามต่างๆ ก่อนที่จะเจอสนามสอบจริง ได้ทดสอบความรู้ และ ได้สะสมผลงานของน้อง เพื่อใช้ในการยื่นผลงาน ในกรณีที่บางกิจกรรม หรือ บางหน่วยงานต้องการ และ เป็นการสร้างความภูมิใจให้กับน้องๆ การสอบแข่งขันบางรายการอาจมีรางวัลเป็น เหรียญ ถ้วย หรือ การเข้าค่ายที่ประเมินมูลค่าไม่ได้ แต่มีผลทางใจอย่างยิ่ง
4.ส่งความรู้เพิ่มเติม เพื่อช่วยเพิ่มศักยภาพทางคณิตศาสตร์  หากทีมงานได้พบเจอคลิปความรู้ หรือเว็บไซต์ความรู้ทางคณิตศาสตร์ที่น่าจะมีประโยชน์ ก็จะส่งให้กับสมาชิก เพื่อช่วยในการเสริมความรู้ให้มีแนวคิดที่หลากหลาย รวมทั้งสามารถจะประยุกต์ความรู้ไปใช้ได้ดีขึ้น  มีคลิปดีๆ ความรู้ที่ดีจากเว็บไซต์ สำหรับใช้เป็นการเรียนนรู้ฟรีๆ มากมาย เพียงแต่ว่า ส่วนใหญ่เราจะไม่ค่อยมีเวลาค้นหา ดังนั้น ถ้าหากได้ดูคลิป หรือความรู้ที่ดีต่างๆ ที่ทีมงานจะส่งไปให้ ก็สามารถช่วยเพิ่มความรู้ให้แน่นขึ้น และก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ
5.จัดเตรียม ฐานความรู้ คำถาม และ คำตอบ ใน โครงการนี้ ให้กับสมาชิก  จะมีการจัดสร้างฐานความรู้ เกี่ยวกับ คำถาม และ คำตอบ ที่สมาชิกแต่ละครอบครัวได้ถามมา และ สมาชิกสามารถจะเข้าดู หรือค้นหา คำถาม และ คำตอบ เหล่านั้นได้ เพื่อจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ที่จะช่วยพัฒนาความรู้ ความสามารถทางคณิตศาสตร์ได้  ฐานข้อมูลที่จะสร้างขึ้น เกิดจากการมีข้อสงสัย คำถาม และ ปัญหาที่เกิดขึ้นจริงจากเด็กๆ และคุณพ่อ คุณแม่ หลายครอบครัว ซึ่งเรียนอยู่ในชั้นที่ใกล้เคียงกัน เมื่อนำมาจัดทำเป็นฐานความรู้ ก็เปรียบเหมือนการแบ่งปันความรู้ ที่จะมาช่วยเสริมแนวคิด และศักยภาพทางคณิตศาสตร์ให้ดียิ่งขึ้นได้ 

[siteorigin_widget class=”SiteOrigin_Widget_Image_Widget”][/siteorigin_widget]
[siteorigin_widget class=”SiteOrigin_Widget_Image_Widget”][/siteorigin_widget]
[siteorigin_widget class=”SiteOrigin_Widget_Image_Widget”][/siteorigin_widget]

ส่วนสำคัญในความสำเร็จของลูก… มาจากพ่อแม่

ปัจจัยสำคัญของความสำเร็จในโครงการนี้ มี 3 ส่วนด้วยกัน คือ ครอบครัว ตัวเด็กเอง และ ทีมงาน Happy Maths Journey ที่เราจะต้องทำงานร่วมกัน เพื่อสะสมความรู้ ความเข้าใจ ฝึกให้น้องสามารถคิดวิเคราะห์ในโจทย์รูปแบบต่างๆ ได้ โดยบทบาทของแต่ละส่วนมีดังนี้

1. ครอบครัว เป็นส่วนสำคัญที่สุด ที่จะส่งเสริมลูกในด้านต่างๆ  เช่น การจัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม การจัดหาเครื่องมือเสริมในการเรียนรู้  การให้ลูกได้ผ่อนคลาย หรือ ออกกำลังกายเป็นประจำ ซึ่งทำให้สมองของเด็กปลอดโปร่ง สุขภาพร่างกายแข็งแรง พร้อมที่จะรับความรู้อย่างเต็มที่ สิ่งเหล่านี้ถ้าครอบครัวส่งเสริมให้ถูกทาง ความสำเร็จทางการศึกษาก็จะทำได้ง่ายขึ้นมาก

2. ตัวเด็กเอง การที่จะให้เด็กมีพื้นฐานแน่น ด้วยการเน้นส่งเด็กไปเรียนกวดวิชา อาจจะไม่ใช่สูตรสำเร็จที่ใช้ได้กับทุกคน เนื่องจากเด็กบางคนอาจจะไม่สามารถเข้าใจในความรู้ส่วนใหญ่ที่เรียนมาได้ สิ่งสำคัญที่จะช่วยแก้ปัญหาดังกล่าว คือ ถ้าหากเด็กมีวินัยในการฝึกทำโจทย์ นำสิ่งที่ได้เรียนรู้จากแหล่งต่างๆ มาทบทวน ก็จะรู้ว่าตัวเองไม่เข้าใจจุดไหน จึงสามารถจะถามในสิ่งที่ติดค้างได้ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการพัฒนาศักยภาพทางคณิตศาสตร์ให้ลูกได้อย่างดีเยี่ยม และลูกก็มีความพร้อมที่จะต่อยอดความรู้เพิ่มขึ้นได้อีกเรื่อยๆ 

3. Happy Maths Journey เป็นทีมงานที่จะเข้ามาเป็นผู้ช่วย ให้ทั้งผู้ปกครองและเด็ก เมื่อติดขัดในเรื่องความรู้ สามารถส่งคำถาม หรือว่าข้อสงสัยมาได้ โดยทีมงานจะตอบกลับความรู้เหล่านั้น โดยการอธิบายแนวคิดให้เข้าใจ อาจจะตอบกลับเป็นข้อความ รูปภาพ หรือคลิปสอน และให้เด็กลองทำดู อาจจะมีการเสริมความรู้สำหรับที่มาและที่ไปให้เด็กและผู้ปกครอง เพื่อให้มีความเข้าใจเพิ่มขึ้น รวมถึงจะมีการแนะนำว่า เด็กควรมีการไปลองทดสอบสนามแข่งขันอะไรบ้าง สมัครได้ยังไง แนะนำสถาบันกวดวิชาตามความจำเป็น โดยทีมงานไม่มีความเกี่ยวข้องกับสถาบันไหนเป็นพิเศษ เนื่องจาก การเลี้ยงลูกของทีมงาน จะไม่เน้นเรื่องการเรียนกวดวิชามากนัก แต่เลือกเรียนที่จำเป็นและเหมาะสมจริงๆ เท่านั้น สิ่งเหล่านี้ คือ การแนะนำเส้นทาง (COACHING) เพื่อให้เด็กสามารถเพิ่มศักยภาพทางคณิตศาสตร์ ด้วยตัวเอง และการส่งเสริมจากครอบครัวนั่นเอง

[siteorigin_widget class=”SiteOrigin_Widget_Image_Widget”][/siteorigin_widget]

ทีมงานมีความเชื่อว่า การร่วมมือกันของเด็ก ผู้ปกครอง และทีมงานจะทำให้เกิดความสำเร็จสำหรับตัวเด็กได้อย่างดีที่สุด การผลักดันจากทีมงานเพียงฝ่ายเดียว จะไม่ส่งผลดีต่อตัวเด็กได้มากเท่าที่ควร ดังนั้น โปรดพิจารณาก่อนจะสมัครคอร์สนี้ ว่าบริการรูปแบบใหม่ของ Happy Maths Journey นี้ จะตรงกับความต้องการของครอบครัวคุณหรือไม่ หากคุณมีข้อสงสัยหรือคำถามเพิ่มเติม สามารถติดต่อพูดคุยกันได้ที่ 

line id :  happymathsjourney 

เบอร์โทร :  (081) 611-5638 

คุณสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการนี้ได้ เพียงเดือนละ 590.- บาท รับจำนวนจำกัด

 

 

 

ภาพสวยๆ จากเว็บไซต์ https://pixabay.com